เกมส์ บาคาร่า สามารถลงเดิมพันแบบไหนได้บ้าง?

เกมส์ บาคาร่า สามารถลงเดิมพันแบบไหนได้บ้าง?

เกมส์ บาคาร่า สามารถลงเดิมพันแบบไหนได้บ้าง?

เกมส์ บาคาร่า สามารถลงเดิมพันแบบไหนได้บ้าง ? บทความนี้ ผมก็จะมาอธิบายเกี่ยวกับ วิธีการเดิมพันของ เกมส์ บาคาร่า เกมส์บาคาร่านี้ เป็น เกมส์ไพ่ยอดฮิต ตลอดการ ของคาสิโนเลยก็ว่าได้ เพราะมีผู้เล่นให้ความสนใจ เป็นจำนวนมาก เกมส์ บาคาร่า เพราะตัวเกมส์ สามารถทำกำไร

ให้แก่ผู้เล่นได้เยอะ ด้วยตัวเกมส์ ท่านจะสามารถใช้สูตรเดินเงินได้ หรือสูตรต่างๆ ของเกมส์บาคาร่า หากท่านเข้าใจ ถึงวิธีการเล่นจะทำกำไร กับเกมส์นี้ ได้อย่างแน่นอน ในเนื้อหาจะมีอะไรบ้าง เรามารับชมกันได้เลยค่ะ

เกมส์ บาคาร่า เล่นยังไง

ในเกมส์บาคาร่าออนไลน์ มีตำแหน่งในการเดิมพัน ให้ท่านเลือกมากถึง 19 ตำแหน่ง ด้วยกัน ซึ่งแต่ละตำแหน่ง จะมีการจ่ายเงินรางวัล ที่ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความยาก ที่จะเกิดขึ้น สำหรับตำแหน่ง จะมีจุดไหนบ้าง และการจ่ายเงิน มีอัตราเท่าไร มารับชมกันค่ะ

ตำแหน่งของผู้เล่น

ในการเดิมพันในตำแหน่งผู้เล่น คือการทายว่าแต้มของฝ่ายผู้เล่นจะมีมากกว่าแต้มของฝ่ายเจ้ามือ ยกตัวอย่าง ว่าลงเดิมพันไปในตำแหน่งผู้เล่น การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 9 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 8 แต้ม แบบนี้ฝ่ายผู้เล่นถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 1 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งผู้เล่น ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 200 บาท

ตำแหน่งของเจ้ามือ

ในการเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ คือการทายว่าแต้มของฝ่ายเจ้ามือจะมีมากกว่าแต้มของฝ่ายผู้เล่นหรือจะชนะในรอบนี้ ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งเจ้ามือ การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายเจ้ามือมีแต้ม 9 แต้ม ฝ่ายผู้เล่นได้แต้ม 8 แต้ม แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 0.95 เท่าของเงินที่ลงเดิมพัน (ถ้าหากเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือแล้วเจ้ามือชนะการเดิมพันในรอบนั้น จะเสียค่าคอมมิชชั่น 0.5 เปอร์เซ็นต์)

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งเจ้ามือ ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 195 บาท

ตำแหน่งเสมอ

ในการเดิมพันตำแหน่งเสมอ คือการทายว่าแต้มของฝ่ายเจ้ามือและแต้มของฝ่ายผู้เล่นจะเท่ากัน ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งเสมอ การเดิมพันในรอบนี้ ถ้าหากฝ่ายเจ้ามือมีแต้ม 9 แต้ม ฝ่ายผู้เล่นได้แต้ม 9 แต้มเหมือนกัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 8 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งเสมอ ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าหากชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 900 บาท

ตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น

ในการเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น คือการทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่นออกมาเหมือนกัน ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น การเดิมพันในรอบนั้น ไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่นจะต้องเป็นหน้าไพ่ที่เหมือนกัน อย่างเช่น ผู้เล่นได้รับไพ่ 4 , 4 แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 11 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของผู้เล่น ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 1,200 บาท

ตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ

ในการเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ คือการทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายเจ้ามือออกมาเหมือนกัน ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ การเดิมพันในรอบนั้น ไพ่ 2 ใบแรกของเจ้ามือจะต้องเป็นหน้าไพ่ที่เหมือนกัน อย่างเช่น เจ้ามือได้รับไพ่ 6 , 6 แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 11 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 1,200 บาท

ตำแหน่ง Perfect Pair

ในการเดิมพันตำแหน่ง Perfect Pair คือการทายว่าไพ่ 2 ใบแรกของฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือจะออกมาเป็นหน้าไพ่ที่เหมือนกัน (ทั้ง 2 ฝ่าย หน้าไพ่มีแต้มต่างกันได้) ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่ง Perfect Pair การเดิมพันในรอบนั้น ไพ่ 2 ใบแรกของผู้เล่น และเจ้ามือจะต้องเป็นหน้าไพ่ที่เหมือนกัน อย่างเช่น ผู้เล่นได้รับไพ่ 7 , 7 เจ้ามือได้รับไพ่ 3 , 3 แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 25 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ของเจ้ามือ ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 2,600 บาท

ตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้

ในการเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ คือการทายว่าไพ่ 2 ใบแรก ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ระหว่างฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือจะออกมาเป็นหน้าไพ่ที่เหมือนกัน ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ การเดิมพันในรอบนั้น ถ้าหากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งออกเป็นไพ่คู่ หรือไพ่ที่หน้าเหมือนกัน อย่างเช่น ผู้เล่นได้รับไพ่ 8 , 8 แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 5 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งไพ่คู่ฝั่งใดก็ได้ ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 600 บาท

ตำแหน่งต่ำ

ในการเดิมพันตำแหน่งต่ำ คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นจะไม่มีฝ่ายไหนที่เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่มเลย หรือจบเกมส์ด้วยไพ่เพียง 4 ไพ่เท่านั้น อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 1.5 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งต่ำ ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 205 บาท

ตำแหน่งสูง

ในการเดิมพันตำแหน่งสูง คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นจะมีฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้เล่น หรือฝ่ายเจ้ามือก็ได้ ที่เรียกไพ่ใบที่สามเพิ่ม หรือจบเกมส์ด้วยไพ่มากกว่า 4 ไพ่ อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 0.54 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งสูง ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 154 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 0

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 0 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 0 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 0 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 0 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 0 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 150 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 0 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 15,100 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 1

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 1 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 1 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 1 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 1 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 1 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 215 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 1 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 21,600 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 2

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 2 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 2 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 2 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 2 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 2 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 220 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 2 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 22,100 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 3

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 3 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 3 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 3 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 3 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 3 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 200 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 3 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 20,100 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 4

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 4 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 4 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 4 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 4 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 4 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 120 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 4 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 12,100 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 5

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 5 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 5 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 5 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 5 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 5 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 110 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 5 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 11,100 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 6

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 6 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 6 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 6 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 6 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 6 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 45 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 6 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 4,600 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 7

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 7 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 7 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 7 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 7 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 7 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 45 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 7 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 4,600 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 8

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 8 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 8 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 8 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม 8 แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 8 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 80 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 8 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 8,100 บาท

ตำแหน่งหมายเลข 9

ในการเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 9 คือการทายว่าการเดิมพันในรอบนั้นฝ่ายผู้เล่น และฝ่ายเจ้ามือ จะเสมอกันที่แต้ม 9 แต้ม ยกตัวอย่างว่าลงเดิมพันในตำแหน่งหมายเลข 9 การเดิมพันในรอบนั้นถ้าหากฝ่ายผู้เล่นมีแต้ม แต้ม ฝ่ายเจ้ามือได้แต้ม 9 แต้มเท่ากัน แบบนี้ถึงจะได้รับเงินเดิมพัน อัตราการจ่ายเงินรางวัลอยู่ที่ 80 เท่าของเงินที่ลงเดิมพันทั้งหมด

ยกตัวอย่างการเดิมพัน : ลงเดิมพันตำแหน่งหมายเลข 9 ด้วยเงินจำนวน 100 บาท ถ้าชนะการเดิมพัน จะได้รับเงินรางวัลรวมเงินลงเดิมพันทั้งหมด 8,100 บาท

และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีการเดิมพันของเกมส์บาคาร่า